วิธีการวัดผล ROI จากการทำ Social Listening

ในยุคที่ข้อมูลคือขุมทรัพย์ การลงทุนใน Social Listening ไม่ได้เป็นเพียงแค่ทางเลือก แต่เป็นสิ่งจำเป็นสำหรับธุรกิจที่ต้องการเติบโตและสร้างความได้เปรียบในการแข่งขัน อย่างไรก็ตาม การลงทุนใดๆ ย่อมต้องมีการวัดผลตอบแทน (Return on Investment - ROI) เพื่อให้แน่ใจว่าทรัพยากรที่ลงไปนั้นสร้างมูลค่าที่คุ้มค่า บทความนี้จะเจาะลึกถึงวิธีการวัดผล ROI จากการทำ Social Listening เพื่อให้คุณสามารถเปลี่ยนข้อมูลเชิงลึกที่ได้มาให้เป็นผลกำไรที่จับต้องได้

ในยุคที่ข้อมูลคือขุมทรัพย์ การลงทุนใน Social Listening ไม่ได้เป็นเพียงแค่ทางเลือก แต่เป็นสิ่งจำเป็นสำหรับธุรกิจที่ต้องการเติบโตและสร้างความได้เปรียบในการแข่งขัน อย่างไรก็ตาม การลงทุนใดๆ ย่อมต้องมีการวัดผลตอบแทน (Return on Investment - ROI) เพื่อให้แน่ใจว่าทรัพยากรที่ลงไปนั้นสร้างมูลค่าที่คุ้มค่า บทความนี้จะเจาะลึกถึงวิธีการวัดผล ROI จากการทำ Social Listening เพื่อให้คุณสามารถเปลี่ยนข้อมูลเชิงลึกที่ได้มาให้เป็นผลกำไรที่จับต้องได้

Feature Image: ROI from Social Listening

Social Listening ROI คืออะไร?


Social Listening ROI คือการวัดผลตอบแทนทางการเงินที่ธุรกิจได้รับจากการลงทุนในกิจกรรม Social Listening ซึ่งรวมถึงค่าใช้จ่ายสำหรับเครื่องมือ บุคลากร และเวลาที่ใช้ไปในการติดตาม วิเคราะห์ และนำข้อมูลจากโซเชียลมีเดียไปใช้ประโยชน์ การวัดผล ROI ช่วยให้ธุรกิจเข้าใจว่า Social Listening ไม่ได้เป็นเพียงแค่ค่าใช้จ่าย แต่เป็นกลยุทธ์ที่สามารถสร้างมูลค่าเพิ่มได้อย่างมหาศาล


ทำไมการวัดผล ROI ของ Social Listening จึงสำคัญ?


  1. **พิสูจน์คุณค่า:** ช่วยให้คุณแสดงให้เห็นถึงคุณค่าที่จับต้องได้ของ Social Listening ต่อผู้บริหารและผู้มีส่วนได้ส่วนเสียอื่นๆ ในองค์กร
  2. **ปรับปรุงกลยุทธ์:** การวิเคราะห์ ROI ช่วยให้คุณระบุได้ว่ากลยุทธ์ Social Listening ส่วนใดที่ได้ผลดี และส่วนใดที่ต้องปรับปรุง เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพในการลงทุนในอนาคต
  3. **จัดสรรงบประมาณ:** ข้อมูล ROI ที่ชัดเจนสามารถใช้เป็นเหตุผลในการขอเพิ่มงบประมาณสำหรับเครื่องมือหรือทีมงาน Social Listening ได้
  4. **เพิ่มประสิทธิภาพ:** เข้าใจว่าการลงทุนของคุณสร้างผลตอบแทนอย่างไร ช่วยให้คุณสามารถเพิ่มประสิทธิภาพการใช้จ่ายและทรัพยากรได้อย่างสูงสุด

5 ขั้นตอนในการวัดผล ROI จาก Social Listening


ขั้นตอนที่ 1: กำหนดเป้าหมายและวัตถุประสงค์ที่ชัดเจน


ก่อนที่จะเริ่มวัดผล ROI คุณต้องมีเป้าหมายที่ชัดเจนว่าต้องการให้ Social Listening ช่วยอะไรธุรกิจของคุณ เป้าหมายเหล่านี้ควรเป็น SMART (Specific, Measurable, Achievable, Relevant, Time-bound) ตัวอย่างเช่น:


  • **เพิ่มยอดขาย:** ต้องการเพิ่มยอดขาย 10% ภายใน 6 เดือน โดยใช้ข้อมูลเชิงลึกจาก Social Listening เพื่อปรับปรุงแคมเปญการตลาด
  • **เพิ่มการรับรู้แบรนด์:** ต้องการเพิ่มจำนวนการกล่าวถึงแบรนด์ (Brand Mentions) 20% ภายใน 3 เดือน
  • **ปรับปรุงการบริการลูกค้า:** ต้องการลดจำนวนข้อร้องเรียนเชิงลบลง 15% ภายใน 1 ไตรมาส
  • **พัฒนาผลิตภัณฑ์:** ต้องการรวบรวมข้อเสนอแนะจากลูกค้าเพื่อปรับปรุงฟีเจอร์ผลิตภัณฑ์ใหม่ 3 อย่างภายใน 1 ปี

การกำหนดเป้าหมายที่ชัดเจนจะช่วยให้คุณเลือก Metrics ที่เหมาะสมในการติดตามผลได้ในขั้นตอนต่อไป

ขั้นตอนที่ 2: เลือก Metrics ที่สอดคล้องกับเป้าหมาย


เมื่อมีเป้าหมายแล้ว ขั้นตอนต่อไปคือการเลือกตัวชี้วัด (Metrics) ที่จะช่วยให้คุณติดตามความคืบหน้าและวัดผลสำเร็จของเป้าหมายเหล่านั้น Metrics ที่สำคัญสำหรับการวัดผล Social Listening ROI ได้แก่:

  • **ปริมาณการกล่าวถึง (Volume of Mentions):** จำนวนครั้งที่แบรนด์ ผลิตภัณฑ์ หรือหัวข้อที่เกี่ยวข้องถูกกล่าวถึงบนโซเชียลมีเดีย บ่งชี้ถึงการรับรู้แบรนด์และขอบเขตการเข้าถึง
  • **การวิเคราะห์ความรู้สึก (Sentiment Analysis):** การทำความเข้าใจว่าการกล่าวถึงเหล่านั้นเป็นไปในเชิงบวก ลบ หรือเป็นกลาง ช่วยให้คุณประเมินภาพลักษณ์และชื่อเสียงของแบรนด์
  • **อัตราการมีส่วนร่วม (Engagement Rate):** การวัด Likes, Shares, Comments, Mentions และการโต้ตอบอื่นๆ เพื่อประเมินว่าเนื้อหาของคุณน่าสนใจและกระตุ้นการมีส่วนร่วมของกลุ่มเป้าหมายได้มากน้อยเพียงใด
  • **อัตราการแปลง (Conversion Rate):** หากเป้าหมายของคุณคือยอดขายหรือการสร้าง Lead ให้ติดตามว่าการมีส่วนร่วมบนโซเชียลมีเดียนำไปสู่การแปลง (เช่น การซื้อสินค้า การลงทะเบียน) ได้มากน้อยเพียงใด
  • **การเติบโตของกลุ่มเป้าหมาย (Audience Growth):** การติดตามจำนวนผู้ติดตามและการเปลี่ยนแปลงของข้อมูลประชากรของกลุ่มเป้าหมาย เพื่อประเมินการขยายตัวของแบรนด์
  • **การมีส่วนร่วมกับ Influencer/KOL:** การระบุและวัดผลการโต้ตอบกับผู้มีอิทธิพล (Influencer) หรือผู้นำทางความคิด (Key Opinion Leader - KOL) ซึ่งสามารถช่วยขยายข้อความของแบรนด์ได้
  • **ส่วนแบ่งการรับรู้ (Share of Voice):** การเปรียบเทียบการมองเห็นและการมีส่วนร่วมของแบรนด์คุณกับคู่แข่ง เพื่อทำความเข้าใจตำแหน่งของคุณในตลาด
  • **การลดต้นทุน (Cost Savings):** Social Listening สามารถช่วยลดต้นทุนได้ เช่น การลดค่าใช้จ่ายในการวิจัยตลาด การลดต้นทุนการบริการลูกค้า หรือการป้องกันวิกฤตชื่อเสียงที่อาจมีค่าใช้จ่ายสูง

ขั้นตอนที่ 3: ใช้เครื่องมือที่เหมาะสม


การเลือกเครื่องมือ Social Listening ที่เหมาะสมเป็นสิ่งสำคัญ เครื่องมือที่ดีควรมีคุณสมบัติดังนี้:

  • **ความสามารถในการติดตามที่ครอบคลุม:** สามารถติดตามการกล่าวถึงจากหลากหลายแพลตฟอร์ม
  • **การวิเคราะห์ขั้นสูง:** ไม่ใช่แค่รวบรวมข้อมูล แต่สามารถวิเคราะห์เชิงลึก เช่น การวิเคราะห์แนวโน้ม พฤติกรรมกลุ่มเป้าหมาย
  • **การติดตาม Conversion:** สามารถเชื่อมโยงการมีส่วนร่วมบนโซเชียลมีเดียกับการแปลงที่เกิดขึ้นจริง
  • **การวิเคราะห์ความรู้สึก:** มีความแม่นยำในการระบุอารมณ์และความรู้สึกจากข้อความ
  • **การวิเคราะห์คู่แข่ง:** สามารถเปรียบเทียบข้อมูลกับคู่แข่งได้
  • **การรายงานที่ชัดเจนและนำไปใช้ได้จริง:** แปลงข้อมูลให้เป็น Insight ที่เข้าใจง่ายและนำไปปฏิบัติได้

ขั้นตอนที่ 4: คำนวณ ROI ของคุณ


เมื่อรวบรวมข้อมูลและ Metrics ที่เกี่ยวข้องแล้ว ก็ถึงเวลาคำนวณ ROI โดยใช้สูตรพื้นฐาน:

Social Listening ROI (%) = [ (มูลค่าที่สร้างขึ้นจาก Social Listening - ต้นทุนของ Social Listening) / ต้นทุนของ Social Listening ] x 100

การระบุมูลค่าที่สร้างขึ้น (Value Generated):

  • **รายได้ที่เพิ่มขึ้น:** หาก Social Listening นำไปสู่การปรับปรุงแคมเปญที่ส่งผลให้ยอดขายเพิ่มขึ้น ให้ประมาณการรายได้ส่วนเพิ่มนั้น
  • **ต้นทุนที่ลดลง:** หาก Social Listening ช่วยลดค่าใช้จ่าย เช่น ลดค่าใช้จ่ายในการวิจัยตลาด (ไม่ต้องทำ Focus Group) หรือลดต้นทุนการจัดการวิกฤต (สามารถแก้ไขปัญหาได้ก่อนที่จะบานปลาย) ให้รวมค่าใช้จ่ายที่ประหยัดได้
  • **มูลค่าของ Brand Equity:** แม้จะวัดยาก แต่การปรับปรุงภาพลักษณ์แบรนด์ ความภักดีของลูกค้า หรือการรับรู้แบรนด์ ก็มีมูลค่าในระยะยาว

การระบุต้นทุน (Costs):

  • **ค่าเครื่องมือ Social Listening:** ค่าสมัครสมาชิกซอฟต์แวร์
  • **ค่าบุคลากร:** เงินเดือนของทีมงานที่รับผิดชอบ Social Listening
  • **ค่าใช้จ่ายอื่นๆ:** ค่าใช้จ่ายในการฝึกอบรม หรือค่าใช้จ่ายที่เกี่ยวข้องกับการนำ Insight ไปปฏิบัติ

ตัวอย่างการคำนวณ:
สมมติว่าธุรกิจของคุณลงทุนใน Social Listening ไป 50,000 บาทต่อเดือน และจากการวิเคราะห์พบว่า:

  • สามารถปรับปรุงแคมเปญการตลาดที่นำไปสู่ยอดขายเพิ่มขึ้น 100,000 บาท
  • สามารถแก้ไขปัญหาลูกค้าเชิงลบได้อย่างรวดเร็ว ทำให้ประหยัดค่าใช้จ่ายในการจัดการวิกฤตไปได้ 20,000 บาท

มูลค่าที่สร้างขึ้น = 100,000 + 20,000 = 120,000 บาท
ต้นทุน = 50,000 บาท

ROI = [ (120,000 - 50,000) / 50,000 ] x 100 = [ 70,000 / 50,000 ] x 100 = 140%

หมายความว่าทุกๆ 1 บาทที่ลงทุนไปใน Social Listening สร้างผลตอบแทนกลับมา 1.40 บาท หรือคิดเป็นผลตอบแทน 140% ซึ่งถือว่าเป็นการลงทุนที่คุ้มค่า


ขั้นตอนที่ 5: ประเมินและปรับปรุงอย่างต่อเนื่อง


การวัดผล ROI ไม่ใช่กิจกรรมที่ทำครั้งเดียวแล้วจบ แต่เป็นกระบวนการต่อเนื่อง คุณควรประเมินผล ROI เป็นประจำ (เช่น รายไตรมาส) เพื่อ:


  • **ระบุแนวโน้ม:** ดูว่า ROI มีแนวโน้มเพิ่มขึ้นหรือลดลง
  • **ปรับกลยุทธ์:** หาก ROI ต่ำกว่าที่คาดไว้ ให้ทบทวนเป้าหมาย Metrics หรือเครื่องมือที่ใช้
  • **เรียนรู้และพัฒนา:** ใช้ข้อมูลที่ได้จากการวัดผลเพื่อปรับปรุงกลยุทธ์ Social Listening ให้มีประสิทธิภาพมากยิ่งขึ้นในอนาคต

สรุป

การวัดผล ROI จากการทำ Social Listening เป็นสิ่งสำคัญที่ช่วยให้ธุรกิจสามารถพิสูจน์คุณค่าของการลงทุนในกลยุทธ์นี้ได้ ไม่ว่าจะเป็นการเพิ่มยอดขาย ลดต้นทุน หรือปรับปรุงภาพลักษณ์แบรนด์ การมีระบบการวัดผลที่ชัดเจนจะช่วยให้คุณสามารถตัดสินใจทางธุรกิจได้อย่างชาญฉลาด และเปลี่ยนข้อมูลเชิงลึกจากโซเชียลมีเดียให้เป็นผลกำไรที่ยั่งยืนในระยะยาว


บทความทั้งหมด : ที่มีประโยชน์ต่อธุรกิจ

Social Listening คืออะไร ? แตกต่างจาก Social Monitoring อย่างไร ? และทำไมธุรกิจจำเป็นต้องใช้

ในยุคดิจิทัลที่ผู้บริโภคใช้โซเชียลมีเดียเป็นช่องทางหลักในการแสดงความคิดเห็น การทำ Social Listening จึงกลายเป็นเครื่องมือสำคัญที่ธุรกิจไม่ควรมองข้าม บทความนี้จะพาคุณทำความเข้าใจกับ Social Listening ตั้งแต่พื้นฐานไปจนถึงการประยุกต์ใช้ในธุรกิจจริง

อ่านต่อ

ปลดล็อกพลังของ Social Listening ด้วย N8N AI Agent: เปลี่ยนข้อมูลโซเชียลให้เป็นกลยุทธ์ทางธุรกิจ

ในยุคดิจิทัลที่การสนทนาเกี่ยวกับแบรนด์ สินค้า และบริการเกิดขึ้นตลอด 24 ชั่วโมงบนโซเชียลมีเดีย การทำความเข้าใจเสียงของลูกค้า (Voice of Customer) ได้กลายเป็นหัวใจสำคัญของการดำเนินธุรกิจที่ประสบความสำเร็จ การทำ Social Listening หรือการเงี่ยหูฟังสิ่งที่ผู้คนพูดถึงเราบนโลกออนไลน์ ไม่ใช่แค่การติดตามการกล่าวถึง (Mentions) แต่คือการวิเคราะห์ข้อมูลมหาศาลเหล่านั้นเพื่อค้นหาข้อมูลเชิงลึก (Insights) ที่นำไปสู่การตัดสินใจทางธุรกิจที่เฉียบคม อย่างไรก็ตาม ความท้าทายหลักคือปริมาณข้อมูลที่หลั่งไหลเข้ามาอย่างต่อเนื่องและความรวดเร็วในการเปลี่ยนแปลงของกระแสสังคม การติดตามและวิเคราะห์ด้วยตนเองจึงแทบจะเป็นไปไม่ได้

อ่านต่อ

5 เทรนด์ Social Listening ที่ธุรกิจต้องรู้ในปี 2025

ในภาวะปัจจุบัน การเข้ามาของ A.I. ในการจัดทำข้อมูลเปลี่ยนแปลงอย่างรวดเร็ว การนำ Social Listening ได้พัฒนาจากการเป็นเพียงเครื่องมือติดตามการกล่าวถึงแบรนด์ ไปสู่กลยุทธ์สำคัญที่ช่วยให้ธุรกิจเข้าใจผู้บริโภค คู่แข่ง และตลาดได้อย่างลึกซึ้งยิ่งขึ้น ปี 2025 นี้ เทรนด์ใหม่ๆ กำลังเข้ามามีบทบาทสำคัญในการกำหนดทิศทางของ Social Listening และการตลาดดิจิทัล ธุรกิจที่ต้องการรักษาความได้เปรียบในการแข่งขันจำเป็นต้องทำความเข้าใจและปรับตัวให้ทันกับเทรนด์เหล่านี้

อ่านต่อ

วิธีการวัดผล ROI จากการทำ Social Listening

เทคนิคและวิธีการวัดผลตอบแทนจากการลงทุนในเครื่องมือ Social Listening พร้อมตัวอย่างการคำนวณที่ใช้ได้จริง

อ่านต่อ

Content Marketing : บทความการตลาด & Martech & A.I.

บทความทางการตลาดที่ได้มีโอกาสไปแบ่งปันประสบการณ์

Brand Age Online

Case Study ใน Brand Age Online

Uses Case : ตลาดแชมพูปิดผมขาวในโลกออนไลน์ ที่แบรนด์ต้องฟัง ผ่าน Social Listening Tool

Read more
Marketing Oop

Case Study ใน Marketing Oop!!

เมื่อ #ปาท่องโก๋ ที่โด่งดัง ถูกเข้ามาแทนที่ด้วย #ครัวซองต์ อะไรคือจุดเปลี่ยนที่สำคัญ

Read more
https://www.martechthai.com/

DOM Social Listening & Social Analytics Tool

เครื่องมือ Martech ของคนไทย ที่ช่วยให้คุณเข้าใจความต้องการของลูกค้าได้อย่างมีประสิทธิภาพ

Read more
การตลาดวันละตอน

มาลองทำ RFM Model Analysis ใน Looker Studio

Case Study การใช้ Looker Studio กับ RFM Model

Read more
Brand Age Online

ตลาดลูกค้าสายมู เล่นแบบไหนมัดใจลูกค้า

เจาะตลาดลูกค้าสายมู แบรนด์ควรเล่นกับความเชื่อแบบไหน? ถึงมัดใจลูกค้าได้มากที่สุด

Read more
Brand Age Online

8 Trends สำหรับ Muketing ที่จะเกิดขึ้นในปี 2567

Muketing เชื่อมจิต ด้วย 8 Trends สำหรับสายมู ที่จะเกิดขึ้นในปี 2567

Read more